เงินเดือนออกแล้ว! แต่ทำไมเงินไม่พอใช้? เชื่อว่ามนุษย์เงินเดือนหรือคนวัยทำงานหลายคนคงเคยเจอปัญหา “เงินเดือนไม่พอใช้” เงินเดือนออกปุ๊บจ่ายนู่นนี่นั่นแป๊บเดียวเงินก็หมดเหลือแต่ความงงว่าเงินไปไหนหมด? ทำงาน 30-31 วันต่อเดือนแต่เงินเดือนหมดภายใน 24 ชั่วโมงพูดแล้วก็เศร้า ใครกำลังเจอปัญหานี้อย่ากังวลไปเพราะวันนี้เรามี “เทคนิคแบ่งเงินเดือน อย่างไรให้พอใช้ถึงสิ้นเดือน” มาบอกต่อรับรองว่าถ้าคุณทำตามเงินเดือนของคุณจะอยู่กับคุณนานขึ้น พร้อมแล้วไปดูกันเลย! ว่าเทคนิคมีอะไรบ้างที่จะช่วยจัดการเรื่องการเงินของเราให้พอใช้และอาจมีเงินเหลือเก็บในทุกเดือนอีกด้วย
เปิดเคล็ด (ไม่) ลับบริหารเงินเดือนอย่างไรให้พอใช้ถึงสิ้นเดือน
แน่นอนว่าภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของแต่ละคนไม่เท่ากันยิ่งปัจจุบันค่าครองชีพสวนทางกับรายได้ในแต่ละเดือนทำให้เงินที่ได้ไม่เพียงกับรายจ่ายในแต่ละเดือน อย่างไรก็ตามนอกจากการประหยัดเงินแล้วอาจมีวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยให้เรามีเงินเพียงพอและมีเงินเก็บมากขึ้น ไปดูกันเลยว่ามีวิธีไหนบ้างที่ทำให้เรามีเงินพอใช้ในทุกเดือน
รู้จัก “เงินเดือน” ของตัวเอง : ก่อนอื่นเราต้องทราบรายรับหรือเงินเดือนที่แน่นอนของเราในแต่ละเดือนเพื่อที่จะสามารถวางแผนบริหารจัดการเงินเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบรายรับทั้งหมด หักค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น ค่าเช่า ค่าผ่อนเงินที่เหลือคือเงินที่ใช้ได้ หรือหากใครต้องการมีเงินออม ควรเก็บเงินที่ต้องการออมก่อนเงินที่เหลือใช้
จดบันทึกรายรับ-รายจ่าย : เป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนไม่ได้ให้ความสนใจการจดบันทึกรายรับรายจ่ายจดทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้ในแต่ละวัน ทำการแยกประเภทของรายจ่าย วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่าย จะช่วยให้เรามองเห็นค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองที่เกิดขึ้นและสามารถจัดการวางแผนทางการเงินให้ดียิ่งขึ้น
ใช้ชีวิตแบบ “มินิมอล” : หลายคนมองหาสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นกระแส ไหลไปตามกระแสสังคม ตามเทรนด์ใหม่ ๆ จนใช้จ่ายเกินความจำเป็น ลองปรับมาใช้ชีวิตแบบมินิมอลคือ ดำเนินชีวิตด้วยการเป็นเจ้าของสิ่งของต่าง ๆ ให้น้อยที่สุดหรือมีเท่าที่เราจำเป็นจะต้องใช้ อันไหนไม่จำเป็น ไม่สำคัญเร่งด่วนมากยังไม่ต้องเร่งรีบเป็นเจ้าของทุกสิ่งซื้อของที่จำเป็น งดซื้อของฟุ่มเฟือยหรือหากจำเป็นและต้องการซื้อจริงๆ ลองมองหาของมือสองคุณภาพดี ราคาถูกกว่าจะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
หารายได้เสริม : เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและช่วยเพิ่มอิสรภาพและสภาพคล่องทางการเงินของเราให้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันการทำอาชีพเดียวอาจไม่เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน การมองหารายได้เสริมอีกทางจึงเป็นสิ่งที่หลายคนเลือกทำเพื่อเพิ่มรายได้ หลายคนอาจกังวลว่าแล้วเราจะทำอาชีพเสริมอะไรดีเพื่อสร้างรายได้ หากยังไม่รู้ว่าเราจะทำอะไรดี ลองเริ่มต้นสร้างอาชีพและหารายได้เสริมจากงานอดิเรกหรือสิ่งที่เราถนัด เช่น งานฝีมือ ขายของออนไลน์ การเป็นนายหน้าขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น อาจเลือกอาชีพเสริมที่ไม่ต้องลงทุนหรือลงทุนต่ำและเราสามารถทำสิ่งนั้นได้เมื่อเสร็จจากอาชีพเสริมหรืองานประจำ
ใช้แอปพลิเคชันช่วยจัดการเงิน : ปัจจุบันแอปพลิเคชันเหล่านี้เป็นตัวช่วยที่ดีในการบริหารจัดการเงินของเราอย่างเป็นระบบและยังสามารถจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้การจัดการเงินและการออมสะดวกสบายและสนุกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งบางแอปยังสามารถตั้งงบประมาณ ติดตามการใช้จ่าย ช่วยให้เราควบคุมรายจ่ายที่ไม่จำเป็นได้ดีทีเดียว
ปรับตัวตามสถานการณ์ : เมื่อเรารู้สถานการณ์ทางการเงินของเราแล้วอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับภาวะทางการเงิน ณ ตอนนั้นปรับแผนการใช้เงินเมื่อจำเป็นและควรเตรียมเงินสำรองฉุกเฉินเพื่อใช้จ่ายในยามที่จำเป็น เพราะนอกจากการมีเงินเก็บเป็นสิ่งสำคัญการเตรียมเงินสำรองสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน
แชร์เทคนิคแบ่งเงินเดือนอย่างไรให้พอใช้ถึงสิ้นเดือน วัยทำงานต้องรู้!!
เงินเดือนเหมือนสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถหายตัวได้ภายในพริบตา ทำงานทั้งเดือนกว่าจะได้เงินแต่เมื่อเงินเข้าบัญชีปุ๊บก็ออกจากบัญชีทันทีไวเหมือนยอดมนุษย์ที่สามารถหายตัวได้ ชาวออฟฟิศทั้งหลายเมื่อได้รับเงินเดือนจะจัดการอย่างไรให้เรามีเงินใช้ถึงสิ้นเดือนและมีเงินเหลือเก็บเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย เรามีทริคในการบริหารจัดการเงินเดือนแบ่งเงินอย่างไรให้พอใช้ถึงสิ้นเดือนมาฝากชาวออฟฟิศทุกคนไปดูกันเลย
ตั้งเป้าหมายการออมเงิน : เมื่อได้รับเงินเดือนสิ่งแรกที่เราควรทำคือการแบ่งเงินเดือนเพื่อเป็นเงินออมอย่างน้อย 20-30% ของทุกเดือนหรือหากใครมีค่าใช้จ่ายเยอะอาจเริ่มต้นเก็บที่ 5-10% ของเงินเดือนค่อย ๆ เก็บออมไปทีละน้อย
จัดสรรแบ่งเงินเดือนให้เป็นส่วน ๆ ชัดเจน : โดยทั่วไปตั้งเป้าหมายการใช้เงินจะแบ่งเงินเป็นสัดส่วนโดยใช้สูตร 50-30-20 โดย
- 50% คือ ค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ fix cost ต่างๆ ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน รวมถึงเงินส่วนที่เราต้องให้พ่อแม่ด้วย
- 30% คือ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว หรือค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราใช้ในการสร้างความสุขให้ตัวเองเช่น ซื้อตั๋วคอนเสิร์ต ไปเที่ยว กินปุฟเฟ่ต์ เป็นต้น
- 20% คือ ส่วนเงินออม อย่างที่เรากล่าวไปว่าส่วนนี้เป็นส่วนแรกที่เราควรแบ่งเก็บก่อนจะนำไปใช้จ่ายอย่างอื่น หากเรามีเงินไม่มากอาจเริ่มเก็บที่ 5-10% ของเงินเดือนในทุกเดือน
จัดสรรเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับลงทุน : การลงทุนเป็นเงินอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญเพื่อต่อยอดและให้เงินเก็บของเรางอกเงย หากมีเงินเพียงพอควรเริ่มต้นลงทุนที่ 5-10% และควรเน้นไปที่ประเภทความเสี่ยงต่ำ
จัดลำดับความสำคัญของการชำระหนี้ : ภาระหนี้สินเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เงินเราของเราไม่พอใช้ ควรเลือกชำระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูง ๆ ให้หมด เพราะหนี้สินเหล่านี้หากเราไม่รีบชำระอาจทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณหรือกลายเป็นเงินทบต้นทบดอกในเวลาต่อมา
ใครกำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่สามารถนำเอาเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ในการบริหารจัดการเรื่องเงินเดือนของทุกคนได้ เชื่อว่าทริคเหล่านี้ที่หลายคนอาจมองข้ามไม่เคยทำจะช่วยให้คุณจัดการเงินได้ดีขึ้น มีเงินเก็บและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่าลืม! วินัยทางการเงินสำคัญที่สุดเริ่มต้นเลย เพื่ออนาคตทางการเงินที่ดีของคุณนอกจากการจัดการเงินเดือนอย่างเป็นระบบด้วยทริคเหล่านี้จะช่วยให้เรามีเงินพอใช้ถึงสิ้นเดือนโดยไม่เดือดร้อนหรือไปกู้ยืมสร้างหนี้สินเพิ่ม หากทำได้รับรองว่าทุกคนจะมีเงินเดือนพอใช้แน่นอน